รูปแบบการสอน
รูปแบบที่
11 การจัดการเรียนรู้แบบนิรนัย (Deductive
Method)
http://nappy131.blogspot.com/ได้กล่าวไว้ว่า การจัดการเรียนรู้แบบนิรนัย
คือ กระบวนการที่ผู้สอนจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนมีความรู้เข้าใจเกี่ยวกับกฎ ทฤษฎี หลักเกณฑ์ ข้อเท็จจริงหรือข้อสรุปตามวัตถุประสงค์ในบทเรียนจากนั้นจึงให้ตัวอย่างหลายๆตัวอย่าง หรืออาจให้ผู้เรียนฝึกการนำทฤษฎี หลักการ หลักเกณฑ์ กฎหรือข้อสรุปไปใช้ในสถานการณ์ที่หลากหลาย
หรืออาจเป็นลักษณะให้ผู้เรียนหาหลักฐานเหตุผลมาพิสูจน์ยืนยันทฤษฎี กฎหรือข้อสรุปเหล่านั้น การจัดการเรียนรู้แบบนี้จะช่วยให้ผู้เรียนเป็นคนมีเหตุผล ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ และมีความเข้าใจในกฎเกณฑ์ ทฤษฎี ข้อสรุปเหล่านั้นอย่างลึกซึ้ง การสอนแบบนี้อาจกล่าวได้ว่า เป็นการสอนจากทฤษฎีหรือกฎไปสูตัวอย่างที่เป็นรายละเอียด
วัตถุประสงค์
เพื่อช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ทฤษฎีหลักการหรือกฎเกณฑ์ต่างๆและสามารถนำไปใช้ในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ที่หลากหลายได้
องค์ประกอบสำคัญ องค์ประกอบสำคัญของการสอนแบบนิรนัยมีดังนี้
คือ
1. ทฤษฎี หลักการ กฎ
หรือข้อสรุปในเนื้อหาที่ต้องการให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้
2. ตัวอย่างสถานการณ์ที่หลากหลาย
ที่สามารถนำทฤษฎี กลักการ กฎ หรือข้อสรุป
เนื้อหาที่ต้องการให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้นั้นไปใช้ได้
3. การฝึกนำทฤษฎี หลักการ กฎ
หรือข้อสรุป
ในเนื้อหาที่ต้องการให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ไปใช้ในสถานการณ์ที่หลากหลาย
4. ผลการเรียนรู้ของผู้เรียนที่เกิดขึ้นจากการนำหลักการไปใช้
ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ การสอนแบบนิรนัยมีขั้นตอนสำคัญดังต่อไปนี้
1. ขั้นกำหนดขอบเขตของปัญหา
เป็นการนำเข้าสูบทเรียนโดยการเสนอปัญหาหรือระบุสิ่งที่จะสอนในแง่ของปัญหา เพื่อยั่วยุให้ผู้เรียนเกิดความสนใจที่จะหาคำตอบ ปัญหาที่จะนำเสนอควรจะเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ของชีวิตและเหมาะสมกับวุฒิ
ภาวะของผู้เรียน
2. ขั้นแสดงและอธิบายทฤษฎี
หลักการ เป็นการนำเอาทฤษฎี หลักการ กฎ ข้อสรุปที่ต้องการสอนมาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ทฤษฎี หลักการนั้น
3. ขั้นใช้ทฤษฎี หลักการ เป็นขั้นที่ผู้เรียนจะเลือกทฤษฎี หลักการ กฎ ข้อสรุป ที่ได้จากการเรียนรู้มาใช้ในการแก้ปัญหาที่กำหนดไว้ได้
4. ขั้นตรวจสอบและสรุป
เป็นขั้นที่ผู้เรียนจะตรวจสอบและสรุปทฤษฎี หลักการ กฎ ข้อสรุปหรือนิยามที่ใช้ว่าถูกต้อง สมเหตุสมผลหรือไม่ โดยอาจปรึกษาผู้สอน
หรือค้นคว้าจากตำราต่างๆ หรือจากการทดลอง
ข้อสรุปที่ได้พิสูจน์หรือตรวจสอบว่าเป็นจริง จึงจะเป็นความรู้ที่ถูกต้อง
5. ขั้นฝึกปฏิบัติ
เมื่อผู้เรียนเกิดความเข้าใจในทฤษฎี หลักการ กฎ ข้อสรุป พอสมควรแล้ว ผู้สอนเสนอสถานการณ์ใหม่ให้ผู้เรียนฝึกนำความรู้มาประยุกต์ใช้ในสถานการณ์
ใหม่ๆที่หลากหลาย
ข้อดีและข้อจำกัด ข้อดีและข้อจำกัดของการจัดการเรียนรู้แบบนิรนัย
มีดังนี้
ข้อดี
1. เป็นวิธีการที่ช่วยในการถ่ายทอดเนื้อหาสาระได้ง่าย รวดเร็วและไม่ยุ่งยาก
2. ใช้เวลาในการจัดการเรียนรู้ไม่มากนัก
3. ฝึกให้ผู้เรียนได้นำเอาทฤษฎี หลักการ กฎ ข้อสรุปหรือนิยามไปใช้ในสถานการณ์ใหม่ๆ
4. ใช้ได้ผลดีในการจัดการเรียนรู้วิชาศิลปศึกษา และคณิตศาสตร์
5. ฝึกให้ผู้เรียนมีเหตุผลไม่เชื่ออะไรง่ายๆโดยไม่มีการพิสูจน์ให้เห็นจริง
ข้อจำกัด
1. เป็นวิธีการที่ใช้ได้เฉพาะบางเนื้อหาส่งเสริมคุณค่าในการแสวงหาและคุณค่าทางอารมณ์ค่อนข้างน้อย
2. เป็นวิธีการที่ผู้สอนต้อเตรียมตัวอย่างสถานการณ์ปัญหาที่ดีมีความชัดเจนและหลากหลายให้ผู้เรียนฝึกทำ
3. ผู้เรียนบางส่วนอาจใช้วิธีการท่องจำมากกว่าการทำความเข้าใจอย่างแท้จริง
ความจำจึงกลายเป็นเรื่องจำเป็นและเป็นสิ่งสำคัญถ้าผู้เรียนลืมทฤษฎี กฎ สูตร
ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้
http://archimedes.utcc.ac.th/wiki/index.php/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%A2 ได้กล่าวไว้ว่า การสอนแบบนิรนัย
(Deductive Method) ความหมาย วิธีสอนแบบนี้
เป็นการสอนที่เริ่มจากกฎ หรือ หลักการต่างๆ
แล้วให้นักเรียนหาหลักฐานเหตุผลมาพิสูจน์ยืนยัน
วิธีการสอนแบบนี้ฝึกหัดให้นักเรียนเป็นคนมีเหตุมีผล ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ
จนกว่าจะพิสูจน์ให้เห็นจริงเสียก่อนความมุ่งหมายของวิธีการสอนแบบนิรนัย : ให้นักเรียนรู้จักกฎ สูตร และหลักเกณฑ์ต่างๆ มาช่วยในการแก้ปัญหา
ไม่ตัดสินใจในการทำงานอย่างง่ายๆ จนกว่าจะพิสูจน์ให้ทราบข้อเท็จจริงเสียก่อน
ขั้นตอนในการสอนแบบนิรนัย
1. ขั้นอธิบายปัญหา
ระบุสิ่งที่จะสอนในแง่ของปัญหา เพื่อยั่วยุให้นักเรียนเกิดความสนใจที่จะหาคำตอบ
(เช่น เราจะหาพื้นที่ของวงกลมอย่างไร)
ปัญหาจะต้องเกี่ยวข้องกับสถานการณ์จริงของชีวิต และเหมาะสมกับวุฒิภาวะของเด็ก
2. ขั้นอธิบายข้อสรุป
ได้แก่ การนำเอาข้อสรุปหรือนิยามมากกว่า 1 อย่างมาอธิบาย
เพื่อให้นักเรียนได้เลือกใช้ในการแก้ปัญหา
3. ขั้นตกลงใจ
เป็นขั้นที่นักเรียนจะเลือกข้อสรุป กฎหรือนิยาม ที่จะนำมาใช้ในการแก้ปัญหา
4. ขั้นพิสูจน์
หรืออาจเรียกว่าขั้นตรวจสอบเป็นขั้นที่สรุปกฎ หรือ นิยามว่าเป็นความจริงหรือไม่
โดยการปรึกษาครู ค้นคว้าจากตำราต่างๆ
และจากการทดลองข้อสรุปที่ได้พิสูจน์เป็นความจริงจะเป็นความรู้ที่ถูกต้อง
ข้อดีและข้อจำกัด
ข้อดี
วิธีสอนแบบนี้เหมาะสมที่จะใช้สอนเนื้อหาวิชาง่ายๆ หรือหลักเกณฑ์ต่างๆ
จะสามารถอธิบายให้นักเรียนเข้าใจความหมายได้ดี และเป็นวิธีที่ง่ายกว่าสอนแบบอุปนัยฝึกให้เป็นคนมีเหตุผล
ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ โดยไม่มีการพิสูจน์ให้เห็นจริง
ข้อจำกัด
วิธีสอนแบบนิรนัยที่จะใช้สอนได้เฉพาะบางเนื้อหา
ไม่ส่งเสริมคุณค่าในการแสวงหาความรู้และคุณค่าทางอารมณ์เป็นการสอนที่นักเรียนไม่ได้เกิดความคิดรวบยอดด้วยตนเอง
เพราะครูกำหนดความคิดรวบยอดให้
http://nadeeya11.blogspot.com/ได้กล่าวไว้ว่า การจัดการเรียนรู้แบบนิรนัย
(Deductive Method) การจัดการเรียนรู้แบบนิรนัยเป็นการจัดการเรียนรู้ที่เริ่มจากกฎเกณฑ์หรือหลักการ แล้วให้นักเรียนหาหลักฐานเหตุผลมาพิสูจน์ยืนยัน
นั่นคือการฝึกทักษะในการคิดอย่างมีเหตุผล
มีการพิสูจน์ตรวจสอบข้อเท็จจริงอันมีที่มาจากหลักการ
ความมุ่งหมายของการจัดการเรียนรู้แบบนิรนัย
1. เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้วิธีการแก้ปัญหาโดยยึดกฎ
สูตร และหลักเกณฑ์ต่างๆ
2. เพื่อฝึกทักษะการแก้ปัญหาและตัดสินใจในการทำงาน
ด้วยการพิสูจน์ให้ทราบข้อเท็จจริง
ขั้นตอนของการจัดการเรียนรู้แบบนิรนัย
1. ขั้นอธิบายปัญหา
เป็นขั้นของการกำหนดปัญหาและกระตุ้นให้นักเรียนเกิดความสนใจที่จะหาคำตอบในการแก้ปัญหา
2. ขั้นอธิบายกฎหรือหลักการเพื่อการแก้ปัญหา
เป็นการนำเอาข้อสรุปกฎเกณฑ์หรือหลักการมาอธิบายให้นักเรียนได้เลือกใช้ในการแก้ปัญหา
3. ขั้นตัดสินใจ
เป็นขั้นที่นักเรียนจะเลือกกฎ หรือหลักการ หรือข้อสรุปมาใช้ในการแก้ปัญหา
4. ขั้นพิสูจน์/ตรวจสอบ เป็นขั้นการนำหลักฐานหรือเหตุผลมาพิสูจน์ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามหลักการนั้น
ๆ
ข้อดีของการจัดการเรียนรู้แบบนิรนัย
1. ใช้ได้กับการจัดการเรียนรู้เนื้อหาวิชาง่าย
ๆ เนื่องจากหลักการหรือกฎเกณฑ์ต่าง ๆ จะสามารถอธิบายให้นักเรียนเข้าใจความหมายได้ดี
เป็นการอธิบายจากส่วนใหญ่ไปหาส่วนย่อย
2. เป็นการฝึกทักษะการคิดอย่างมีเหตุผล
และพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้
ข้อสังเกตของการจัดการเรียนรู้แบบนิรนัย
1. ครูผู้สอนต้องศึกษากฎเกณฑ์
หลักการหรือข้อสรุปต่างๆ อย่างแม่นยำก่อนทำการสอน
2. ครูเป็นผู้กำหนดความคิดรวบยอดให้นักเรียน
จึงไม่ช่วยฝึกทักษะในการคิดหาเหตุผลและแก้ปัญหาด้วยตัวนักเรียนเองได้มากเท่าที่ควร
สรุป
การสอนแบบนิรนัย (Deductive
Method)
หมายความว่า
วิธีสอนแบบนี้ เป็นการสอนที่เริ่มจากกฎ หรือ หลักการต่างๆ
แล้วให้นักเรียนหาหลักฐานเหตุผลมาพิสูจน์ยืนยัน วิธีการสอนแบบนี้ฝึกให้นักเรียนเป็นคนมีเหตุมีผล
ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ จนกว่าจะพิสูจน์ให้เห็นจริงเสียก่อน
ความมุ่งหมายของวิธีการสอนแบบนิรนัย
เพื่อช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ทฤษฎีหลักการหรือกฎเกณฑ์ต่างๆและสามารถนำไปใช้ในการแก้ปัญหาและตัดสินใจในการทำงาน
ด้วยการพิสูจน์ให้ทราบข้อเท็จจริงในสถานการณ์ที่หลากหลายได้
องค์ประกอบสำคัญ องค์ประกอบสำคัญของการสอนแบบนิรนัยมีดังนี้
คือ
1. ทฤษฎี หลักการ กฎ
หรือข้อสรุปในเนื้อหาที่ต้องการให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้
2. ตัวอย่างสถานการณ์ที่หลากหลาย
ที่สามารถนำทฤษฎี กลักการ กฎ หรือข้อสรุป
เนื้อหาที่ต้องการให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้นั้นไปใช้ได้
3. การฝึกนำทฤษฎี หลักการ กฎ
หรือข้อสรุป
ในเนื้อหาที่ต้องการให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ไปใช้ในสถานการณ์ที่หลากหลาย
4. ผลการเรียนรู้ของผู้เรียนที่เกิดขึ้นจากการนำหลักการไปใช้
ขั้นตอนในการสอนแบบนิรนัย การสอนแบบนิรนัยมีขั้นตอนสำคัญดังต่อไปนี้
1. ขั้นกำหนดขอบเขตของปัญหา
เป็นการนำเข้าสูบทเรียนโดยการเสนอปัญหาหรือระบุสิ่งที่จะสอนในแง่ของปัญหา เพื่อยั่วยุให้ผู้เรียนเกิดความสนใจที่จะหาคำตอบ ปัญหาที่จะนำเสนอควรจะเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ของชีวิตและเหมาะสมกับวุฒิ
ภาวะของผู้เรียน
2. ขั้นอธิบายกฎหรือหลักการเพื่อการแก้ปัญหา
เป็นการนำเอาข้อสรุปกฎเกณฑ์หรือหลักการมาอธิบายให้นักเรียนได้เลือกใช้ในการแก้ปัญหา
3. ขั้นใช้ทฤษฎี หลักการ เป็นขั้นที่ผู้เรียนจะเลือกทฤษฎี หลักการ กฎ ข้อสรุป ที่ได้จากการเรียนรู้มาใช้ในการแก้ปัญหาที่กำหนดไว้ได้
4. ขั้นตรวจสอบและสรุป
เป็นขั้นที่ผู้เรียนจะตรวจสอบและสรุปทฤษฎี หลักการ กฎ ข้อสรุปหรือนิยามที่ใช้ว่าถูกต้อง สมเหตุสมผลหรือไม่ โดยอาจปรึกษาผู้สอน
หรือค้นคว้าจากตำราต่างๆ หรือจากการทดลอง
ข้อสรุปที่ได้พิสูจน์หรือตรวจสอบว่าเป็นจริง จึงจะเป็นความรู้ที่ถูกต้อง
5. ขั้นฝึกปฏิบัติ
เมื่อผู้เรียนเกิดความเข้าใจในทฤษฎี หลักการ กฎ ข้อสรุป พอสมควรแล้ว ผู้สอนเสนอสถานการณ์ใหม่ให้ผู้เรียนฝึกนำความรู้มาประยุกต์ใช้ในสถานการณ์
ใหม่ๆที่หลากหลาย
ข้อดีและข้อจำกัด ข้อดีและข้อจำกัดของการจัดการเรียนรู้แบบนิรนัย มีดังนี้
ข้อดี
1. เป็นวิธีการที่ช่วยในการถ่ายทอดเนื้อหาสาระได้ง่าย รวดเร็วและไม่ยุ่งยาก
2. ใช้เวลาในการจัดการเรียนรู้ไม่มากนัก
3. ฝึกให้ผู้เรียนได้นำเอาทฤษฎี หลักการ กฎ ข้อสรุปหรือนิยามไปใช้ในสถานการณ์ใหม่ๆ
4. ใช้ได้ผลดีในการจัดการเรียนรู้วิชาศิลปศึกษา และคณิตศาสตร์
5. ฝึกให้ผู้เรียนมีเหตุผลไม่เชื่ออะไรง่ายๆโดยไม่มีการพิสูจน์ให้เห็นจริง
ข้อจำกัด
1. เป็นวิธีการที่ใช้ได้เฉพาะบางเนื้อหาส่งเสริมคุณค่าในการแสวงหาและคุณค่าทางอารมณ์ค่อนข้างน้อย
2. เป็นวิธีการที่ผู้สอนต้อเตรียมตัวอย่างสถานการณ์ปัญหาที่ดีมีความชัดเจนและหลากหลายให้ผู้เรียนฝึกทำ
3. ผู้เรียนบางส่วนอาจใช้วิธีการท่องจำมากกว่าการทำความเข้าใจอย่างแท้จริง
ความจำจึงกลายเป็นเรื่องจำเป็นและเป็นสิ่งสำคัญถ้าผู้เรียนลืมทฤษฎี กฎ สูตร
ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้
ที่มา
http://nappy131.blogspot.com/.
การจัดการเรียนรู้แบบนิรนัย. เข้าถึงเมื่อ
21 สิงหาคม 2558.
http://archimedes.utcc.ac.th/wiki/index.php/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%A2. การจัดการเรียนรู้แบบนิรนัย. เข้าถึงเมื่อ 21
สิงหาคม 2558.